จุดเริ่มต้นของ Mr.Veggie.....

ก่อนอื่นผมต้องออกตัวเลยว่า ผมเขียนทางการไม่เก่ง แต่จะเล่าให้ฟังละกันว่าทำไมผมถึงมาทำผักตัวนี้ และผักของผมมันเป็นยังไง

เมื่อก่อนผมเคยทำเกี่ยวกับเมล็ดพันธ์ผัก ซึ่งผมมีโอกาสหลายครั้งที่ต้องไปเยี่ยมเกษตรกรที่สวน (ผมหมายถึงสวนผักทั่วไป ที่ไม่ใช่อินทรีย์หรืออร์แกนิกนะครับ) หลายๆที่ที่ไป เห็นแล้วก็ตกใจครับ ผักหลายตัวมีการใช้ยาเยอะจริงๆ แต่โดยส่วนตัวนะครับ ผมก็เข้าใจเกษตรกร คือ สิ่งที่เค้าต้องการในแต่ละวันคือผลผลิตที่มากที่สุด สวย เสียหายน้อยที่สุด เพื่อรายได้ในแต่ละวัน

เห็นแบบนั้นแล้ว เวลาผมจะสั่งผักกินที่ร้านอาหารก็มีหวั่นๆ หันไปมองสภาพร้านรอบๆ คิดในใจว่า “เค้าจะล้างผักสะอาดป่าววะ” แต่สุดท้ายก็สั่งครับ เพราะร้านเค้าทำอร่อยจริง

และนั่นแหละครับจุดเริ่มต้น…. ผมเองชอบกินข้าวนอกบ้านครับ ร้านข้าวต้ม ส้มตำ ชาบู หมูกะทะ กินหมด แต่ผมไม่เคยเห็นร้านพวกนี้บอกเลยว่า ใช้ผักออร์แกนิก หรือผักปลอดสารพิษเท่านั้น แต่ไม่แปลกเลยครับ จะให้ร้านข้าวต้มเจ๊ติ๋มใช้ผักออร์แกนิค ผัดผักบุ้งคงพุ่งไป 180 บาท ผมก็คงกินไม่ไหว และเจ๊ติ๋มก็คงไม่ซื้อเช่นกัน

มาคิดกันแบบตามหลักความจริงในปัจจุบัน

  1. ในเมื่อเกษตรกรส่วนใหญ่ก้อยังต้องพ่นยากันต่อไป (แต่ผมหวังนะว่าวันนึงเกษตรอินทรีย์จะยิ่งใหญ่)
  2. ร้านเจ๊ติ๋มเองก็คงซื้อผักออร์แกนิกมาทำอาหารไม่ไหว
  3. ผู้บริโภคอย่างผมก้อยังติดใจรสชาติแบบร้านเจ๊ติ๋ม และติดใจราคาแบบเจ๊ติ๋ม

ทีนี้ทำไงดี……ผมเลยคิดว่า ผมอยากเป็นคนส่งผักให้ร้านอาหารเอง โดยผมจะคัดสรรและทำความสะอาดล้างสารเคมีตกค้างในผักให้ (แบบที่เค้าทำส่งนอกกัน แต่พี่ไทยไม่ได้กินอ่ะครับ) เจ๊ติ๋มก็ไม่ต้องเหนื่อย ผู้บริโภคก็วางใจได้ ในราคาที่เจ๊ติ๋มรับได้

ผักของผม ไม่ใช่ผักออร์แกนิกหรือผักปลอดสารพิษ ผมขออนุญาติเรียกว่า “ผักปลอดภัย” ละกันนะครับ คือผักที่มีสารเคมีอยู่ในระดับปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค คัดสรรและตรวจสอบคุณภาพโดยโรงคัดบรรจุที่ได้มาตรฐานระดับสากล (GMP)

ผักปลอดภัย Mr Veggie อาจเป็นส่วนประกอบเล็กๆ ที่ช่วยยกมาตรฐานคุณภาพการบริโภคของเราให้ดีขึ้น และผมจะดีใจมากหากใครมีไอเดียดีกว่าผม แล้วเรามาช่วยกันทำคนละไม้คนละมือนะครับ เริ่มจากจุดเล็กๆแล้วทำมันให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ

ขอบคุณอีกครั้งนะครับที่สละเวลาอ่านเรื่องราวของ Mr Veggie